วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง ทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดต้นตอปัญหาผิว
ทำไมเราถึงต้องล้างหน้าด้วยวิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง? เพราะการล้างหน้าเป็นขั้นตอนพื้นฐานที่สำคัญในการดูแลผิวหน้า ที่ไม่เพียงช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกและเครื่องสำอางเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงสุขภาพและความแข็งแรงของผิวหน้าอีกด้วย หากล้างหน้าผิดวิธีอาจส่งผลต่อปัญหาผิวได้ ไม่ว่าจะเป็นผิวบอบบาง, ผิวแพ้ง่าย, สิว, ริ้วรอย หรือแม้แต่โรคผิวหนัง ซึ่งวิธีล้างหน้าที่ถูกต้องนั้นไม่ยากเลยเพียงทำตามวิธีต่อไปนี้
วิธีล้างหน้าที่ถูกต้อง เพื่อผิวสะอาดเนียนนุ่มสุขภาพดี
1. ทำความสะอาดมือก่อนล้างหน้า
ก่อนเริ่มขั้นตอนการล้างหน้าควรทำความสะอาดมือก่อนทุกครั้ง เพราะมือเป็นอวัยวะที่สัมผัสสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างวันอยู่ตลอดเวลา จึงอาจทำให้มีเชื้อโรคและแบคทีเรียเกาะอยู่ได้ถึงกว่า 3,000 ชนิด การล้างมือจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำความสะอาดสิ่งสกปรกและลดเชื้อโรคต่าง ๆ โดยสามารถล้างด้วยน้ำเปล่า เจลแอลกอฮอล์ หรือสบู่ ถูบริเวณฝ่ามือ หลังมือ ซอกนิ้ว หลังนิ้ว นิ้วหัวแม่โป้ง ไปจนถึงรอบข้อมือ ให้สะอาดเป็นเวลา 15-30 วินาที
2. เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะกับสภาพผิว
แต่ละคนมีสภาพผิวที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง, ผิวมัน, ผิวผสม หรือผิวแพ้ง่าย จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่เหมาะสมกับผิวของตนเอง
- ผิวมัน คนผิวมันมักเลือกโฟมที่มีความแรงเกินไปในการขจัดความมันบนใบหน้า ซึ่งวิธีนี้อาจทำให้หน้าแห้งจนเสียสมดุลได้ และยิ่งเป็นการกระตุ้นต่อมไขมันให้ผลิตไขมันเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้หน้ามันมากกว่าเดิม ดังนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำความสะอาดผิวได้ล้ำลึกแต่ไม่แรงจนทำให้ผิวแห้งตึง
- ผิวแห้ง คนผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าที่ทำความสะอาดได้หมดจดและมีส่วนผสมของสารที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ทิ้งความรู้สึกแห้งตึงหลังล้างหน้า
- ผิวผสม มีลักษณะของผิวมันและผิวแห้งผสมกันอยู่ในตำแหน่งที่แตกต่างกันออกไป จำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทั้งสำหรับคนผิวแห้งและผิวมันที่มีความอ่อนโยน เนื่องจากจะไม่ไปทำร้ายบริเวณผิวแห้ง และในขณะเดียวกันยังสามารถทำความสะอาดบริเวณผิวมันได้อย่างล้ำลึก
- ผิวแพ้ง่าย เกิดขึ้นได้กับผิวทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นผิวแห้ง ผิวมัน หรือผิวผสม ดังนั้น ผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย จึงควรระมัดระวังผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของสารก่อระคายเคือง อย่างแอลกอฮอล์ น้ำหอม สี สารเคมี หรือส่วนประกอบอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ และควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดรูปแบบน้ำ โฟม เจล หรือสบู่เหลว เพราะสบู่ก้อนมักมีค่าความเป็นกรดด่างที่ไม่เหมาะสม เป็นสาเหตุให้ผิวหน้าแห้งตึงจนเป็นผื่นและเกิดอาการคันได้
3. ล้างและเช็ดเครื่องสำอาง
การเช็ดเครื่องสำอางเป็นขั้นตอนที่ต้องใส่ใจในรายละเอียด เพราะหากมีสารตกค้างบนใบหน้า
อาจเกิดแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรืออาจทำให้เนื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวในขั้นตอนอื่น ๆ ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ยาก ดังนั้นควรเลือกใช้คลีนซิ่ง หรือ Cleansing Oil ที่เหมาะกับสภาพผิวเพื่อช่วยทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก โดยวิธีใช้คลีนซิ่งสามารถใช้ร่วมกับ เบบี้ออยล์ เพื่อช่วยเสริมการลบเมคอัพในจุดที่ต้องการใช้ความอ่อนโยนเป็นพิเศษ เช่น ใช้ เบบี้ออยล์ เช็ดทำความสะอาดบริเวณรอบดวงตา ให้สะอาดเพิ่มยิ่งขึ้นจากอายแชโดว์, อายไลเนอร์ หรือมาสคาร่า ที่ติดแน่นทำความสะอาดยาก พร้อมทั้งยังช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น และช่วยบำรุงผิวหน้าได้อีกด้วย ควรใช้เป็นประจำทุกวันก่อนล้างหน้า หากมีการแต่งหน้าร่วมด้วย
4. เลี่ยงการล้างหน้าด้วยน้ำร้อนจัด หรือน้ำเย็นจัด
ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็นจัดในการล้างหน้า เนื่องจากทำให้ผิวเสียสมดุล ขาดความชุ่มชื้น และแห้งกร้านได้ ส่งผลให้ผิวหนังผลิตความมันออกมาเกินความจำเป็น ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาสิว และผิวมันเพิ่มขึ้นได้
5. ล้างหน้าให้ถูกวิธี
หลังจากเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับประเภทผิวแล้ว อีกหนึ่งจุดที่หลายคนมองข้าม คือ การตีเนื้อผลิตภัณฑ์ให้เป็นฟองก่อนนำไปล้างหน้า เพื่อลดการเสียดสีและการระคายเคืองของผิว โดยใช้วิธีการนวดเบา ๆ บนใบหน้าตามแนวขนเพื่อลดการอุดตันของสิ่งสกปรก อาจเริ่มจากหน้าผาก จมูก ริมฝีปาก คาง และแก้ม ให้ทั่วแล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
6. เช็ดหน้าให้แห้งหลังล้างหน้า
แนะนำให้ใช้ทิชชู่ที่ใช้สำหรับเช็ดหน้าโดยเฉพาะ สามารถลดการสะสมของแบคทีเรียได้ และความนุ่มของทิชชู่ที่ใช้สำหรับเช็ดหน้าทำให้ลดความระคายเคืองต่อผิวได้ดีกว่าการใช้ผ้าขนหนู
แต่หากใช้ผ้าขนหนูในการเช็ดหน้า ควรแยกผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าให้ชัดเจน และเปลี่ยนผ้าใหม่ทุก ๆ 2-3 วัน เพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดสิว
7. ลงสกินแคร์บำรุงผิว
การดูแลผิวหน้าให้สุขภาพดี หลังล้างหน้าควรใช้สกินแคร์ลงตาม ขั้นตอนการลงสกินแคร์ ที่ถูกต้องเพื่อการบำรุงผิวที่มีประสิทธิภาพ โดยเริ่มจากใช้โทนเนอร์เพื่อกระชับรูขุมขนและลดการอักเสบของผิว ตามด้วยเซรั่มช่วยแก้ไขปัญหาผิว และเพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิวหากผสมจอห์นสัน เบบี้ ออยล์ กับครีมหรือมอยส์เจอไรเซอร์ โดยใช้เป็นประจำเพื่อจะช่วยให้ผิวสดใสเนียนนุ่มดูมีสุขภาพผิวดียิ่งขึ้น
ข้อแนะนำในการล้างหน้า
- ไม่ควรล้างหน้าบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวแห้งสูญเสียความชุ่มชื้น เนื่องจากน้ำมันธรรมชาติที่เป็นเกราะป้องกันผิวหน้าจะถูกล้างออกไปด้วย ทำให้กระตุ้นการสร้างน้ำมันบนผิวหน้าเพิ่มขึ้น เป็นสาเหตุให้หน้ามัน เกิดสิวอุดตันได้
- ควรซับหน้าให้แห้งด้วยทิชชู่เช็ดหน้าแทนผ้าขนหนู เพราะนอกจากจะช่วยทำความสะอาดผิวหน้าแล้ว ทิชชู่เช็ดหน้ายังช่วยบำรุงเติมความชุ่มชื้น ให้สัมผัสที่นุ่มอ่อนโยนต่อผิว
- หลังการล้างหน้าเป็นช่วงที่ผิวขาดน้ำมากที่สุด ควรเช็ดหน้าพอหมาดและทาเบบี้ออยล์เล็กน้อย โดยเฉพาะบริเวณที่ผิวแห้งเป็นพิเศษ ด้วย ประโยชน์ของเบบี้ออยล์ จะช่วยเสริมให้ผิวชุ่มชื้นเนียนนุ่มมากขึ้น