วิธีฟื้นฟูผิวไหม้แดดให้กลับมาสวยใสสุขภาพดี
ระหว่างที่กำลังสนุกกับกิจกรรมนอกบ้านอยู่นั้น อาจพบเจอกับอันตรายที่คาดไม่ถึงอย่างแสงแดด ที่นอกจากความร้อนแล้วยังส่งผลให้ ผิวไหม้แดด จนเกิดการอักเสบ แสบ และมีตุ่มบวมได้หากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน การดูแลป้องกันผิวจากแสงแดดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย!
ผิวไหม้แดดเกิดจากอะไร
ผิวไหม้แดด เกิดจากการตอบสนองของผิวต่อแสงอัลตราไวโอเลต (UV) ที่มีในแสงแดด เมื่อได้รับแสง UV แรงจัดนานเกินกว่า 15 นาที ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวก่อให้เกิดการระคายเคือง แสบร้อนผิวหนัง และตามมาด้วยปัญหาผิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น หน้าไหม้แดด ตัวไหม้ ผิวหมองคล้ำ ฝ้าแดดสะสม
ลักษณะของผิวไหม้แดด
1. ผิวไหม้แดดระดับเริ่มต้น
ผิวแดงกว่าปกติเล็กน้อย อาจมีอาการรู้สึกแสบร้อนและระคายเคืองบนผิว แต่ไม่น่ากังวลมากนัก เมื่อผิวได้รับการดูแลที่เหมาะสม 3-5 วัน ผิวส่วนที่ไหม้จะฟื้นตัวกลับมาสู่สภาวะปกติ
2. ผิวไหม้แดดระดับกลาง
ผิวแดงขึ้นมากกว่าปกติ บริเวณ ผิวไหม้แดด อาจมีอาการปวด แสบ คัน ผิวหนังหลุดลอก การใช้น้ำเย็นฉีดลงบนผิวจะช่วยบรรเทาอาการได้เบื้องต้น
3. ผิวไหม้แดดระดับรุนแรง
ผิวมีลักษณะแดงและบวมอย่างรุนแรง อาจมีอาการอื่น ๆ เช่น ปวดแสบปวดร้อน คัน ระคายเคือง หรือมีตุ่มน้ำใส ๆ ในกรณีนี้ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านผิวหนัง เพื่อรับการรักษาและคำแนะนำในการดูแลผิวให้เหมาะสม
อาการผิวไหม้แดดแบบใดที่ควรไปพบแพทย์ ?
อาการ ผิวไหม้แดด มีความหลากหลาย หากมีอาการเจ็บปวดรุนแรง ผิวหนังพุพองหรือ ผิวไหม้แดด ครอบคลุมพื้นที่ใหญ่ มีไข้ หนาวสั่น เกิดภาวะขาดน้ำ ควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษาทันที
วิธีดูแล และป้องกันผิวไหม้แดด
1. ประคบผิวด้วยผ้าเย็น
ควรนำผ้าเย็นมาประคบบนผิวจะช่วยลดอาการบวม ระคายเคือง และความรุนแรงของผิวไหม้แดด อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งในการประคบกับผิวโดยตรง เพราะความเย็นที่มากเกินไปส่งผลให้ผิวถูกทำลายได้
2. บำรุงผิวให้ชุ่มชื้น ด้วย จอห์นสัน อโลเวร่า แอนด์ วิตามินอี เบบี้ ออยล์
ควรนำผ้าเย็นมาประคบบนผิวจะช่วยลดอาการบวม ระคายเคือง และความรุนแรงของผิวไหม้แดด อย่างไรก็ตามควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำแข็งในการประคบกับผิวโดยตรง เพราะความเย็นที่มากเกินไปส่งผลให้ผิวถูกทำลายได้
เพราะผิวไหม้แดดขาดความชุ่มชื้นอย่างมาก ควรปลอบประโลมผิวด้วยจอห์นสัน อโลเวร่า เบบี้ออยล์เป็นประจำ คุณสมบัติของว่างหางจระเข้จะช่วยลดอาการอักเสบและบวมของผิว อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิว มาพร้อมวิตามิน E ที่นอกจากมีส่วนช่วยเสริมสร้างเซลล์ผิวใหม่แล้ว เนื้อออยล์ยังช่วยยกระดับการกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้มากกว่า 10 เท่า*
*ผลทดสอบในห้องปฏิบัติการเทียบกับโลชั่น โดย Johnson & Johnson Consumer France เดือน ธ.ค. 2543
3. ไม่ลอก แกะ เกาตุ่มแผล
เมื่อเกิดตุ่มแผลจากผิวไหม้แดด ควรปล่อยให้แตกเองเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่กระจายเชื้อโรค และหมั่นทำความสะอาดผิวด้วยน้ำเกลือบ่อย ๆ เพื่อชะล้างเซลล์ที่ตายและความสกปรกออกจากผิว จากนั้นบำรุงด้วยโลชั่นจอห์นสันเบบี้ เพื่อช่วยถนอมผิวและเพิ่มความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ
4. หลีกเลี่ยงการออกแดด
ผิวไหม้แดด เกิดการระคายเคืองได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการอยู่ข้างนอกในช่วงแดดแรง ระหว่าง 10 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น หากจำเป็นควรใส่เสื้อผ้าที่ปกป้องผิว เช่น เสื้อแขนยาว หมวกกันแดด และใส่แว่นกันแดด เพื่อป้องกันการเผชิญหน้ากับแสงแดดโดยตรง
5. ทาครีมกันแดดก่อนออกไปข้างนอก
เนื่องจากผิวไหม้แดดมีความไวต่อแสงมากกว่าปกติ หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอก ควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง โดยทาให้ทั่วบริเวณผิวหน้าและผิวตัว ก่อนออกจากบ้าน 15 นาที ครีมกันแดดจะช่วยปกป้องอันตรายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
6. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ
เมื่ออยู่กลางแดดเป็นเวลานานจนทำให้ผิวไหม้แดด ร่างกายจะสูญเสียน้ำไปจำนวนมาก การดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยขับของเสียออกจากร่างกายและเสริมสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิว
การรับมือกับผิวไหม้แดดเบื้องต้นนั้นสามารถทำตามได้ไม่ยาก แต่ก่อนจะไปถึงขั้นนั้นเราควรปกป้องผิวจากแสงแดดให้ดีที่สุด ด้วยการใช้ครีมกันแดดที่มี SPF สูงให้เหมาะสมกับผิวและกิจกรรม เลี่ยงการอยู่ข้างนอกในช่วงที่แสงแดดจัดเป็นเวลานาน ควบคู่ไปกับการบำรุงผิวด้วยเบบี้ออยล์ที่ให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูผิวให้สวยใสสุขภาพดียิ่งขึ้นในทุกวัน
คำถามที่พบบ่อย
Q: ผิวไหม้แดดกี่วันหาย?
ระยะเวลาในการฟื้นฟู ผิวไหม้แดด ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และประสิทธิภาพในการดูแลและรักษาผิวของแต่ละบุคคล
ผิวไหม้แดด ระดับเริ่มต้น: จะใช้เวลาประมาณ 3-7 วัน
ผิวไหม้แดด ระดับกลาง: ใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูประมาณ 1-2 สัปดาห์
ผิวไหม้แดด ระดับรุนแรง: ใช้ระยะเวลาในการฟื้นฟูมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป หาก ผิวไหม้แดด มีอาการหนักและรุนแรงมากขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาเพิ่มเติม
Q: ผิวไหม้แดดอันตรายไหม?
เมื่อผิวได้รับแสงแดดจัดเป็นเวลานาน นอกจาก ผิวไหม้แดด แล้ว ในระยะยาวอาจเป็นสาเหตุให้เกิดริ้วรอยและเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนัง นอกจากนี้แสงแดดยังมีผลกระทบต่อดวงตา เช่น กระจกตาอักเสบจากรังสียูวี และโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ด้วย ดังนั้นควรหมั่นทาครีมกันแดดและสวมแว่นกันแดดเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับแสงแดดที่มีความเข้มข้นสูงทุกครั้ง